Bitcoin Halving คืออะไร

Bitcoin Halving เป็นการลดรางวัลบล็อก (Block reward) ของนักขุดให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งคือ จะลดรางวัลบล็อกบิทคอยน์ลงจาก 6.25 BTC เป็น 3.125 BTC โดยประมาณ เพื่อจำกัดปริมาณของบิทคอยน์ในทุกรอบ 4 ปี ซึ่งการลดปริมาณรางวัลการขุดบิทคอยน์ให้น้อยลง สวนทางกับปริมาณความต้องการถือเหรียญบิทคอยน์มากขึ้น จึงส่งผลให้ราคาของบิทคอยน์หลังปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ใน 3 ครั้งที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้น

โดยตามสถิติที่ผ่านมา หลังการเกิด Bitcoin Halving

  • ครั้งที่ 1 ในช่วงปี 2012 ส่งผลให้บิทคอยน์สามารถทำราคาสูงสุด (ATH) ได้ที่ 1,042 ดอลลาร์ (Coinmarketcap) หรือ 37,657 บาท
  • ต่อมาหลังการเกิด Bitcoin Halving ครั้งที่ 2 ในช่วงปี 2016 ส่งผลให้ราคาของบิทคอยน์ทำ ATH ได้ถึง 17,500ดอลลาร์ (Coinmarketcap) หรือ 632,450 บาท
  • หลังการเกิด Bitcoin Halving ครั้งที่ 3 ในช่วงปี 2020 ส่งผลให้ราคาของบิทคอยน์ทำ ATH ไปได้ถึง 68,789 ดอลลาร์ (Coinmarketcap) หรือ 2,486,034 บาท
  • และในวันที่ 20 เมษายน 2567 นี้ จะนับเป็น Bitcoin Halving ครั้งที่ 4

และเมื่ออ้างอิงจากเว็บไซต์ของ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ www.bitkub.com/halving/ วันที่ 19 เมษายน 2567 เวลา 16.00 น. แสดงตัวเลขจำนวนบล็อกก่อน Halving อยู่ที่ 90 บล็อก ซึ่งมีจำนวนบล็อกในปัจจุบันอยู่ที่ 840,000 บล็อก ราคาบิทคอยน์อยู่ที่2,366,703 บาท

ส่วนด้านตัวเลขของราคาจากข้อมูลจะเห็นการขยับตัวขึ้นมาบ้างจากช่วงหลายวันที่ผ่านมา สืบเนื่องจากปัจจัยที่อาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองของโลก ส่งผลบิทคอยน์ยังทำราคาล่าสุดอยู่ที่ 2,387,618 บาท มีการเปลี่ยนแปลงใน 24 ชม. ทำราคาสูงสุดอยู่ที่ 2,410,000 บาท ต่ำสุดอยู่ที่ 2,200,010.88 บาท คิดเป็น +5.43% และมีปริมาณการเทรด BTC อยู่ที่ 273.80 BTC คิดเป็นมูลค่าราว ๆ 652,097,311.494 บาท บนกระดานบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์

ทำไม Bitcoin ต้องมี Halving

เพื่อยืดเวลาการขุดเหรียญทั้งหมด

ปกติแล้วในทุกๆ วัน ประมาณ 1800 บิทคอยน์ จะถูกค้นพบในเวลานี้และหลังจากเดือนพฤษภาคม 2020 นี้ รางวัลจะถูกลดลงเหลือ 900 บิทคอยน์ต่อวัน และยึดเวลาที่บิทคอยน์จะถูกค้นพบทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ

เพื่อลดปัญหาเงินเฟ้อ

ถ้าเหรียญถูกขุดพบน้อยลงเรื่อยๆ จำนวนการไหลเวียนของบิทคอยน์จะเหลือน้อยลงเรื่อยๆทำให้ของมันหายากขึ้นไปอีกคำพูดจาก เว็บตรงสล็อต

อาจทำให้ราคาเพิ่มขึ้น ?

ราคาบิทคอยน์ปกติจะขึ้นตามดีมานต์และซัพพลาย ถ้าปริมาณเหลือน้อยลงแต่ความต้องการกลับมากขึ้น อาจจะทำให้ราคาพุ่งขึ้นสูงมากเหมือนปีก่อนๆที่ผ่านมา

ปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลต่อราคา Bitcoin ในช่วงปี 2567

ส่วนปัจจัยที่จะมีผลต่อราคาบิทคอยน์ในปี 2567 คือ

การอนุมัติของ Spot Bitcoin ETF ในฝั่งสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา ได้เรียกความเชื่อมั่นให้นักลงทุนคริปโตทั่วโลกเป็นอย่างมาก และส่งผลให้เกิดราคาสูงสุดครั้งใหม่ New Time High ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการอนุมัติของ Spot Bitcoin ETF ครั้งนี้

ทำให้นักลงทุนรายย่อยบางส่วนกลับเข้ามาในตลาดและลงเล่นใหม่อีกครั้ง และล่าสุดได้มีการอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ครั้งแรกในทวีปเอเชีย และ Spot Ethereum ETF ครั้งแรกของโลก โดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (SFC) ได้อนุมัติผลิตภัณฑ์ของกองทุน spot Bitcoin และ Ethereum ETF เมื่อ 15 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

โดย Eric Balchunas นักวิเคราะห์จาก Boomblerg ได้ให้ความเห็นไว้ว่า เป็นการแสดงถึงความคืบหน้าและก้าวสำคัญของฮ่องกง แต่เนื่องจากตลาดมีขนาดเล็กกว่ามาก จึงคาดการณ์ว่าคงจะยังไม่ได้รับเงินลงทุนไหลเข้ามหาศาลจนทำให้เกิดการขยับของราคาเมื่อเทียบเท่ากับที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา

ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่เป็นการลดลงของจำนวน BTC ในระบบให้มีจำนวนการเกิดขึ้นที่น้อยลงเรื่อย ๆ และยืดเวลาที่บิทคอยน์จะถูกค้นพบจนถึง 21 ล้านเหรียญให้ช้าลง จำนวนการไหลเวียนของบิทคอยน์จะเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้หายากขึ้นไปอีก จุดนี้เองที่จะช่วยสร้างความฝืดให้บิทคอยน์

และตามดีมานต์และซัพพลาย แล้วหากปริมาณเหลือน้อยลงแต่ความต้องการกลับมากขึ้น อาจจะทำให้เห็นของการขยับของราคาที่สูงขึ้นคล้ายกับที่เคยเกิดมาแล้ว 3 ครั้งตามสถิติที่ผ่านมา

ราคาของบิทคอยน์อาจจะยังไม่ได้ขยับขึ้นหลังจาก Halving ในทันที เนื่องจาก Halving เป็นการทำให้คุณสมบัติของบิทคอยน์มีความ “เกิดได้ยากขึ้น” ซึ่งไม่ได้หมายความว่า บิทคอยน์จะมีมูลค่าสูงขึ้นในทันทีทันใดคำพูดจาก ปั่นสล็อต

และต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเศรษฐกิจของโลกด้วย นักลงทุนทั่วโลกจึงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าหลัง Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 นี้จะส่งผลต่อราคาของบิทคอยน์อย่างไร

ที่มา : Bitkub

ภาพ : Freepik / fotomaximum

By admin